วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

เอกสารดาวน์โหลด

เครนก่อสร้างคอนโดฯ สูง ย่านเทพารักษ์ พังถล่มทับคนเสียชีวิต



เกิดอุบัติเหตุเครนก่อสร้างคอนโดมิเนียมสูง ริมถนนเทพารักษ์ พังถล่ม เป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ
(5 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เกิดอุบัติเหตุเครนโครงการก่อสร้างคอนโดย่าน ถ.เทพารักษ์ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางเมืองใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ ชำรุดเสียหาย ทำให้มีส่วนประกอบบางส่วนตกลงมาสู่พื้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน
เบื้องต้นจากการประสานไปยัง สภ.สำโรงเหนือ ซึ่งเป็นท้องที่ที่รับผิดชอบ ทราบว่าขณะนี้ ร.ต.อ.อัสนีย์ กองเกิด รองสารวัตรสอบสวน สภ. สำโรงเหนือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังอยู่ระหว่างเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุดังกล่าว

 

เอกสารดาวน์โหลด
ไฟไหม้กุฏิวอด-เจ้าอาวาสเศร้าวิ่งฝ่าไฟคว้าย่ามมาได้ใบเดียว วอนร่วมทำบุญกฐินสร้างใหม่

สนับสนุนเนื้อหา
วันที่ 4 พฤศจิกายน 61 เมื่อเวลา 10.00 น.
เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าเหตุไฟไหม้กุฏิพระสงฆ์ที่วัดบ้านสะตือสร้างแซ่ง ต.สร้างแซ่ง อ.ยางสีสุราช
จ.มหาสารคาม จากนั้นได้ประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลพยัคฆภูมิพิสัย อบต.บ้านกู่ อบต.ยางสีสุราช
และทีมกู้ภัยยางนคร เข้าระงับเหตุ
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้อยู่ที่กุฏิพระสงฆ์ ซึ่งเป็นอาคารครึ่งปูนครึ่งไม้
โดยต้นเพลิงเกิดที่ห้องนอนของพระสงฆ์ ที่ชั้น 2 โดยเพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว
ทำให้กุฏิพระสงฆ์ได้รับความเสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาดับเพลิงนานกว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ
แต่ยังคงต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้อย่างต่อเนื่อง
นางบุญล้อม แสงโภดา ชาวบ้านบ้านสะตือ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่พระสงฆ์กำลังฉันเช้าเสร็จ
ญาติโยมรวมถึงตนเองกำลังช่วยกันล้างจานอยู่ที่ด้านล่าง ได้ยินเสียงคล้ายประทัดดัง จากนั้นมีเสียงเหมือนลูกไฟแตก
พอเงยหน้าขึ้นมามองก็พบว่ามีกลุ่มควันกำลังพวยพุ่งขึ้นบนฟ้า
ตนจึงได้ตะโกนเรียกชาวบ้านออกมาช่วยเหลือ ชาวบ้านช่วยกันน้ำถังน้ำมาตักน้ำดับไฟ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
เพราะไฟไหม้รุนแรง ส่วนรถดับเพลิงที่มาช่วยดับไฟก็อยู่ห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร ทำให้ไฟไหม้กุฏิหมดทั้งหลัง
Advertisement
ด้านพระวีระ จันทสโร เจ้าอาวาสวัดบ้านสะตือสร้างแซ่ง ต.สร้างแซ่ง อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม กล่าวว่า
ขณะเกิดเหตุตนเองไม่อยู่ที่วัด พระกำลังไปบอกบุญให้ชาวบ้านมาร่วมงานบุญกฐินที่ทางวัดกำลังจะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 8-9
พฤศจิกายน ที่กำลังจะมาถึงนี้ พอออกจากวัดไปได้ไม่ถึง 10 นาที ญาติโยมก็โทรศัพท์มาบอกว่าไฟไหม้กุฏิ
จึงได้รีบกลับมาที่วัด
ก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนกุฏิเพื่อนำเอกสารสำคัญออกมา ก็คว้าย่ามมาได้แค่ใบเดียวซึ่งภายในมีใบสุทธิ ทะเบียนวัด
กระเป๋าสตางค์ และสมุดธนาคาร ส่วนกุฏิที่ไฟไหม้ชั้นบนเป็นห้องนอนของพระสงฆ์ ที่อยู่จำพรรษาทั้งหมด 4 รูป
ส่วนชั้นล่างเป็นที่เก็บของ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ บาตรพระ ข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ก็ถูกไฟเผาวอดไปหมด
ซึ่งสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากทางวัดเพิ่งจะเปลี่ยนสายไฟใหม่ทั้งหมดไปเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา
จากนี้ไปพระก็จะใช้ศาลาการเปรียญเป็นที่พักไปก่อนชั่วคราว
จึงขอฝากญาติโยมเชิญมาร่วมงานทอดกฐินที่ทางวัดกำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 8-9 พฤศจิกายนนี้
เพื่อนำปัจจัยมาร่วมสร้างกุฏิพระหลังใหม่ แทนหลังเดิมที่ถูกไฟไหม้

ชาวบ้านชุมชนท่ากระเบา หมู่ 7 บ้านท่าไม้ทอง

เอกสารดาวน์โหลด
"ถนนคอนกรีต" ยุบตัวลง 15 เมตร ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก-วอนหน่วยงานช่วยเหลือ
Sanook! Regional
สนับสนุนเนื้อหา
ชาวบ้านชุมชนท่ากระเบา หมู่ 7 บ้านท่าไม้ทอง ต.ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับความเดือดร้อน สาเหตุเพราะถนนคอนกรีตที่อยู่ติดกับแม่น้ำป่าสักภายในหมู่บ้าน ถูกน้ำจากแม่น้ำป่าสักกัดเซาะชั้นดิน ทำให้ถนนสายดังกล่าวพังมานานถึง 3 ปี
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2561 ชาวบ้านชุมชนท่ากระเบา หมู่ 7 บ้านท่าไม้ทอง ต.ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับความเดือดร้อนสาเหตุเพราะถนนคอนกรีตที่อยู่ติดกับแม่น้ำป่าสักภายในหมู่บ้าน ถูกน้ำจากแม่น้ำป่าสักกัดเซาะชั้นดิน ทำให้ถนนสายดังกล่าว พังมานานถึง 3 ปี
จนถึงวันนี้ยังไม่มีหน่วยงานมาเหลียวแล หรือแก้ปัญหาให้ ทุกวันนี้ชาวบ้านต้องแก้ปัญหาโดยการใช้ทางเบี่ยง ที่อยู่ติดกับถนนเดิม แต่ก็กินเข้าไปในที่ดินของชาวบ้าน แต่ทางเบี่ยงมีความแคบจึงมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
Advertisement
ส่วนถนนคอนกรีต ที่เกิดการทรุดตัว ได้รับความเสียหายนั้น ถนนได้ยุบตัวลงไปในแม่น้ำป่าสัก เป็นระยะทางยาว 15 เมตร และคาดว่าปีนี้ถนนสายดังกล่าวน่าจะถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนเกิดการทรุดตัวเพิ่มขึ้นอีก หากยังไม่มีการเข้ามาแก้ไข
ถนนคอนกรีตสายนี้ มีชาวบ้านต้องใช้สัญจรไปมา ซึ่งก็มีทั้งผู้ใหญ่ และเด็กๆ เคยมีคนประสบอุบัติเหตุขับรถตกลงไปในคลองลึกมาแล้วหลายครั้ง โชคดีแค่บาดเจ็บไม่ถึงกับเสียชีวิต
จากการสอบถามนายผจญ บานเย็นงาม อายุ 62 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ทราบว่าเคยมีหน่วยงานหลายหน่วยงานเข้ามาดูแต่เรื่องก็เงียบ โดยถนนเส้นนี้พังมานาน 3 ปีแล้ว สาเหตุเพราะน้ำกัดเซาะ
ทุกวันนี้ชาวบ้านเดือดร้อนเพราะรถขนาดใหญ่ไม่สามารถสัญจรได้เพราะดินสไลด์หมดแล้ว ยิ่งหน้าฝนหมดสิทธิ์ที่จะเข้าออก จึงอยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือด้วย

 





วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2561

เกียวกับฉัน


เกียวกับฉัน
ข้าพเจ้า ด.ญ.อภิชญาภา จันทร์อ่อน ชื่อเล่นแพน ชื้อชาติไทย สัญชาติไทย ศาสนา พุทธ
วันเกิด24 มีนาคม พ.ศ.2549 ข้าพเจ้าเป็นบุตรคนที่2ที่อยู่ปัจจุบัน202 อำเเภอเมือง ตำบลพระบาท
จังหวัดลำปางemail apichayapa2549@gmail.com

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2561

เริ่มต้น

เว็บไซต์นี้จัดทำขึนมาเพื่อสะสมงาน

ในภาพอาจจะมี วรรณา วงค์สุรีย์ และ Apichayapa Jun-on, ภาพเซลฟี่, ภาพระยะใกล้ และ สถานที่กลางแจ้ง